เปรียบเทียบรากฟันเทียมกับฟันปลอม

รากฟันเทียมกับฟันปลอม แบบไหนใช้งานได้ดีกว่ากัน

ฟันเป็นหนึ่งในอวัยวะมีการใช้งานตลอดทั้งวันเพราะปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ก็คือการกินเพื่อดำรงชีวิต เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งฟันแท้อาจถูกถอนหรือถูกทำลายออกไป ไม่ว่าจะด้วยจากอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับฟันซี่นั้น ๆ จนทำให้ต้องถูกถอนออกไปโดยทันตแพทย์ก็ตาม จึงทำให้จำเป็นต้องใส่รากฟันเทียมหรือฟันปลอมเข้ามาแก้ปัญหาหรือช่วยเหลือคนที่ฟันแท้หลุดออกไป เพื่อให้ฟันใช้งานได้ตามปกติในการบดเคี้ยว รวมไปถึงช่วยเรื่องบุคลิกภาพของเราอีกด้วย สำหรับคนที่อยากใส่ฟันปลอมที่ไม่หลุดง่าย สามารถพิจารณาเลือกระหว่างการใส่ฟันปลอมกับรากฟันเทียมได้ ดังนี้

เปรียบเทียบความแตกต่างของรากฟันเทียมกับฟันปลอม

รากฟันเทียมกับDentureแม้จะเป็นสิ่งที่ช่วยทดแทนฟันแท้ได้เหมือนกันแต่ก็มีส่วนที่แตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต กรรมวิธีในการใส่ รวมไปถึงเรื่องของอายุการใช้งาน ซึ่งเราได้สรุปความแตกต่างของDental Implantและฟันปลอมไว้ 6 ประเด็น เพื่อให้คุณเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนขึ้น ดังนี้

1. วัสดุที่ใช้ทำ

รากฟันเทียม ทำจากไททาเนียมสกรู ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเดือยฟัน ซึ่งไททาเนียมเป็นวัสดุที่มีความคงทนสูง และเป็นวัสดุที่สามารถเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงสามารถใช้สำหรับการติดตั้งรากฟันเทียมได้ดีด้วย สามารถยึดเกาะกับกระดูกได้เป็นอย่างดี โดยรากฟันเทียมประกอบด้วยวัสดุ 3 ชิ้น ได้แก่ รากฟันเทียมไททาเนียม เสายึด (Abutment) และสกรู (Screw) ซึ่งออกแบบมาสำหรับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับช่องปาก กระดูกรองรับฟัน และตำแหน่งที่จะทำการฝังรากฟันเทียม สำหรับDentureทั้งให้เลือกใช้งาน 2 ชนิด ทั้งแบบฐานเป็นโลหะและฐานพลาสติก ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และการแนะนำของทันตแพทย์ โดยวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถใช้กับร่างกายมนุษย์ได้ มีความปลอดภัยและเข้ากับเนื้อเยื่อภายในช่องปากได้อย่างดี แต่ถือว่าเป็นวัสดุที่มีความคงทนน้อยกว่ารากฟันเทียม

2. ระยะเวลาการรักษา

การรักษาด้วยวิธีใช้Dental Implantจะใช้เวลาในการรักษาที่นานกว่าการใส่ฟันปลอม เพราะการใส่ฟันปลอมสามารถใส่ได้ทันทีหลังถอนฟัน ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งแบบเฉพาะรายซี่ที่ถูกถอนออกไป หรือใส่หมดทั้งปากก็ได้ แต่สำหรับการรักษาด้วยวิธีรากฟันเทียม จะต้องมีการตรวจช่องปากและเอ็กซเรย์ช่องปาก เพื่อวางแผนการใส่ รากฟันเทียมและตำแหน่งที่ต้องใส่สำหรับการยึดเกาะ รวมถึงการพิมพ์ปากสำหรับทำครอบฟันเทียม โดยจะใช้ระยะเวลาในการรักษาราว ๆ 2-4 เดือน จากนั้นคนไข้จะต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อประเมินการใส่รากฟันเทียมทุก 6 เดือน

3. ราคา

Dental Implant เป็นการแก้ไขฟันที่ถูกถอนหรือทำลายออกไปด้วยวิธีการยึดติดกับเนื้อเยื่อ และต้องมีการออกแบบการจัดใส่รากฟันเทียมโดยเฉพาะบุคคล ดังนั้นจึงมีราคาสูงกว่าการใส่ฟันปลอมที่เกิดจากการผลิตฟันปลอมสำหรับการยึดเกาะเท่านั้น โดยรากฟันเทียมมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 -50,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนฟันและความยากง่ายในการรักษาของแต่ละบุคคล ส่วนฟันปลอมมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนฟันปลอมและวัสดุที่ใช้ในการผลิต

4. การใช้งานด้านการบดเคี้ยว

การใช้งานด้านการบดเคี้ยวนั้นการใส่รากฟันเทียม จะสามารถใช้งานได้คล่องตัวกว่า เพราะมีการยึดเกาะกับร่องเหงือกที่คงทนกว่า อีกทั้งยังมีการพิมพ์ครอบฟันที่มีลักษณะเฉพาะบุคคลจึงสามารถยึดเกาะได้ดีกว่าการใช้Denture ดังนั้นการใส่รากฟันเทียมจึงสามารถใช้งานด้านการบดเคี้ยวได้ดีกว่านั่นเอง

5. อายุการใช้งาน

การใช้งานสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าการใส่ฟันปลอม เพราะเป็นฝังDental Implantลงไปยังร่องเหงือกโดยตรง รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิตรากฟันเทียมทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติคงทนได้ดีกว่า สำหรับฟันปลอมมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 10 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลการใส่รากฟันเทียมและการใส่ฟันปลอมด้วย

6. การทำความสะอาดช่องปาก

สำหรับการทำความสะอาดช่องปากในการใส่รากฟันเทียม และฟันปลอมนั้น ถือว่ามีวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันที่คล้ายคลึงกัน โดยต้องมีการแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แต่สำหรับการใส่ฟันปลอมนั้นสามารถถอดฟันปลอมเพื่อนำออกมาทำความสะอาดได้ง่ายกว่า โดยวิธีการทำความสะอาดฟันปลอมนอกจากการแปรงฟันแล้ว ยังควรนำฟันปลอมแช่น้ำยาทำความสะอาดที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อขจัดคราบพลัคและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามซอกฟัน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานฟันปลอมให้ยาวนานขึ้น

ตารางเปรียบเทียบรากฟันเทียมกับฟันปลอม

ข้อเปรียบเทียบ Dental Implant Denture
การติดแน่น ยึดแน่นถาวร ถอดออกได้
การติดตั้ง ใช้การฝั่งรากฟันเทียมที่เป็นไททาเนียมลงที่กระดูกขากรรไกร ต้องใช้กาวติดฟันปลอม
ผลต่อกระดูกกราม ถนอมกระดูกกรามและโครงหน้าไม่ป้องกันการเสื่อมสภาพของกระดูกขากรรไกร
ภาพลักษณ์ ให้ความรู้สึกและดูเหมือนฟันธรรมชาติดูไม่เป็นธรรมชาติ
การผ่าตัด ต้องได้รับการผ่าตัดทางทันตกรรม ไม่ต้องรับการผ่าตัดทางทันตกรรม
ระยะเวลาการรักษา 3 - 6 เดือน 2 - 3 เดือน
ราคา (ต่อซี่) เริ่มต้น 30,000 บาท เริ่มต้น 3,000 บาท

จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างการใส่รากฟันเทียมและDenture ถึงแม้ว่าทั้ง 2 วิธีจะเป็นการใส่ฟันทดแทนเพื่อแก้ปัญหาฟันที่ถูกถอนหรือทำลายออกไป แต่ก็มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของวัสดุที่ใช้ในการผลิต การใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาด้วย ซึ่งการใส่Dental Implantที่คลินิกทันตกรรม TDH Dental เราจัดทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดังนั้นจึงทำให้การทำรากฟันเทียมของเรามีความคงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และที่สำคัญนอกจากการใส่รากฟันเทียมจะช่วยในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังช่วยเรื่องบุคลิกภาพอีกด้วย ซึ่งทีมทันตแพทย์ของเรามีการวิเคราะห์ วางแผนการใส่รากฟันเทียมอย่างดี เพื่อให้เข้ากับเนื้อเยื่อและรูปหน้าของแต่ละบุคคล รวมทั้งยังเลือกใช้วัสดุเกรดดีชั้นพรีเมี่ยม ทำให้การใส่รากฟันมีประสิทธิภาพและใช้งานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น

หากท่านใดสนใจทำรากฟันเทียม สามารถขอคำแนะนำกับทีมทันตแพทย์ใส่รากฟันเทียมได้ที่คลินิกทันตกรรม TDH Dental ทุกสาขา หรือผ่านทางช่องทางออนไลน์ ปรึกษาทันตแพทย์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือถ้าคุณต้องการพูดคุยปัญหาสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ เพียงกรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ต้องการนัดหมาย และบอกปัญหาที่ต้องการปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ Dentist Anywhere by TDH ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน สถานการณ์ใด ก็พูดคุยกับหมอฟันของเราได้ตลอด

Related posts

เว็บไซต์นี้ มีการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (Cookies) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ได้ที่
ยอมรับ
ปฏิเสธ
Privacy Policy